เราอาจจะเคยเห็นงานจัดแสดงดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ในทั่วโลก แต่คนทั่วโลกคงไม่เคยเห็นงานจัดแสดงดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ ที่ร่วมกันทำขึ้นจากการทุ่มเทแรงกายแรงใจของสามัญชนคนธรรมดาและพ่อค้าแม่ค้าหาเช้ากินค่ำเพื่อมอบให้กับพ่อที่เป็นที่รักคนเดียวของคนทั้งชาติ
ครั้งแรกของการรวมตัวกันของช่างฝีมือดอกไม้ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าในปากคลองตลาด พร้อมกับประชาชนทั่วไปที่ร่วมเป็น จิตอาสา ระดมดอกไม้สดที่เป็นพืชเศรษฐกิจจากทั่วประเทศไทย มารังสรรค์ร่วมกันจัดทำเป็นซุ้มดอกไม้เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัยที่งดงามและเปี่ยมไปด้วยความหมายที่แสดงออกถึงความรักที่มีต่อพ่อผู้เป็นที่รัก ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก โดยจะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม ไปจนถึง 27 ตุลาคม 2560
ซุ้มที่ 1 “คนไทย” (Thais)
อุโมงค์ดอกไม้จัดทำผืนผ้าปลิวไสวความยาว 89 เมตร ตามพระชนมพรรษาของพระองค์ ประดับด้วยดอกไม้สีขาวโดยส่วนปลายของผืนผ้า จะค่อยๆกลายมาเป็นสีของธงชาติไทย เพื่อสื่อความหมายว่า มนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมาคล้ายดังผ้าสีขาวบริสุทธิ์ ต่อเมื่อได้มาอาศัยอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์
เราทุกคนล้วนสมัครใจเป็นคนไทยร่วมกันอย่างหมดหัวใจ โดยจะเปิดให้ประชาชนถือเทียนเดินผ่านซุ้มดังกล่าว เพื่อร่วมกันสื่อความหมายว่า ไม่ว่าลมพายุจะรุนแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถดับแสงเทียนแห่งศรัทธาของคนไทยลงไปได้ เพราะคำสอนของพ่อเป็นสัจธรรม และเป็นอมตะวาจาสำหรับลูกๆที่เป็นคนไทยตราบนานเท่านาน
ซุ้มที่ 2 “สายฝน”
ซุ้มดอกไม้ที่จัดทำขึ้นด้วยดอกบัว ที่เรียงลำดับหลดหลั่นกันดุจสายน้ำ จากจุดเริ่มแรงบันดาลใจจากดอกบัวของยายตุ้มที่เฝ้าอดทนรอรับเสด็จในหลวงจนดอกบัวสายในมือเหี่ยวเฉา แต่พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยน้ำพระทัยดังสายฝนที่หลั่งชโลมให้ชีวิตคนไทยได้ชุ่มฉ่ำตลอดมา จึงทำให้ดอกบัวที่เหี่ยวเฉากลับกลายเป็นดอกบัวที่บานสะพรั่งในหัวใจคนไทยทั้งประเทศ รวมถึงความหมายของดอกบัวที่ชาวไทยใช้ถวายสักการะแด่พระพุทธองค์ และลำดับที่ลดหลั่นกันของดอกบัว ที่ล่องลอยโผล่พ้นผิวน้ำคือ ปริศนาธรรมที่บ่งบอกถึง การเป็นบัวเหนือน้ำของคนไทยจากคำสอนของพระองค์
ซุ้มที่ 3 “รอยเท้าพ่อ”
ซุ้มดอกไม้ที่จัดทำขึ้นเป็นรูปทรงทิวเขาทางภาคเหนือ ประดับด้วยดอกเบญจมาศ ดอกมัม และดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดซึ่งปัจจุบันเป็นดอกไม้เศรษฐกิจของไทย เพื่อสื่อความหมายถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ในการพลิกฟื้นผืนป่าเสื่อมโทรม เปลี่ยนพื้นดินภาคเหนือจากไร่ฝิ่นมาสู่สวนดอกไม้และพืชเมืองหนาว สร้างอาชีพ รายได้ให้กับเกษตรกรชาวเขาเผ่าต่างๆ อยู่ดีกินดี มีความอุดมสมบูรณ์เกิดขึ้นในทั่วทุกผืนป่าของแผ่นดินไทย
ซุ้มที่ 4 “บ้าน” (Home)
ซุ้มดอกไม้ที่จัดทำพวงดอกไม้ขึ้นเป็นรูปทรงของดอกดารารัตน์จากดอกรัก โดยจัดทำเป็นจำนวน 77 ดอกในรูปฟอร์มของแผนที่ประเทศไทย เพื่อสื่อความหมายถึง พสกนิกรชาวไทยทั่วทั้งประเทศน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์ เพื่อพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย พ่ออันเป็นที่รักของคนไทยเหมือนดังที่พระองค์พระราชทานความรักให้กับคนไทย ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเสมอมา
ซุ้มที่ 5 “๙” (King Rama IX)
ซุ้มดอกไม้ที่จัดทำขึ้นด้วยดอกเรืองสว่างสดใส ซึ่งเป็นสีประจำรัชกาลของพระองค์ เรียงร้อยเป็นม่านระย้าอย่างงดงาม เมื่อผู้ชมมองจากมุมหน้าตรงของซุ้มประตู จะเห็นเป็นรูปทรงของเลข ๙ คือเลขประจำรัชกาล ความเรืองรองของสีเหลืองดอกดาวเรืองยังสื่อความหมายถึงความรุ่งเรืองที่ไม่เคยเกิดขึ้นในยุคสมัยใดและความยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่ทั่วโลกยกย่องให้เป็นพระราชาเหนือพระราชา
ซุ้มที่ 6 “มณฑารพ”
ซุ้มดอกไม้ที่จัดทำขึ้นเป็นรูปทรงประตูสวรรค์ โดยมีดอกมณฑารพ ดอกไม้ทิพย์ที่มีถิ่นกำเนิดในแดนสวรรค์ ร่วงโรยอยู่ที่ช่องประตู ครั้งใดมีเหตุการณ์ที่ทำให้แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่นถึงชั้นฟ้า ดอกมณฑารพ ก็จะโปรยปรายผ่านแดนทิพย์สู่โลกมนุษย์ ดังนั้นประตูสวรรค์แห่งนี้จึงประดิษฐ์เป็นดอกมณฑารพโปรยปรายลงมา ด้านข้างประตูสวรรค์รายล้อมด้วยเทือกเขาดอกไม้สีขาวและช้างเผือกเครื่องเชิดชูเกียรติประดับบารมีของพระมหากษัตริย์ เพื่อสื่อความหมายถึงพสกนิกรชาวไทย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์ เพื่อพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัยและจะน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้เป็นหลักยึดเหนี่ยวในการดำเนินชีวิตดุจดังความฝันอันสูงสุดของพระองค์ท่านที่มีต่อปวงชนชาวไทย